เตือน!!!!! ข้อควรระวัง เศรษฐกิจ
กำลังกังวลเรื่องเศรษฐกิจที่พังจริง เริ่มจะไม่มีเงินใช้หนี้
ในทางกลุ่มที่ประเทศเกิดใหม่ ค่าเงินอ่อนแอ Dift กับ dollar คนว่างงานเยอะ เเต่ตลาดหุ้นขึ้น เเต่หุ้นไปต่อ เนื่องจากรัฐบาลช่วยเหลือ เนื่องจากผลกระทบที่ตามมาจริงๆ ยังไม่ตามมา
เกิดความเหลื่อมล้ำคนจน คนรวย
ตลาดหุ้นขึ้นเนื่องจาก บริษัททำอะไรไม่ได้ ก็ต้องเอาเงินเข้าตลาดหุ้น High Yiel Bond(หนี้ที่สภาพไม่ค่อยดี) ตราสารหนี้ เนื่องด้วยรัฐอุ้ม
Loss Decade 1990 bubble in Japan ( Miracle Japan) ที่อสังหาริมทรัพย์ ทำให้เศรษฐกิจไปไม่ได้ แต่ญี่ปุ่นไเลือกทำ QE เพื่ออุ้มบริษัท ทำให้ตลาดแทนที่จะล้มกลับไม่ล้ม คนที่ลงทุนผิดทางจะเจ๊งได้ คือ คาดการอีกทาง
เลี้ยงฟองสบู่ไปเรื่อยๆ เด็กรุ่นใหม่ไม่สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ ไม่ได้เกิดการ reset
ในอีกมุมนึงคือการกระจายสินทรัพย์ใหม่ คนรุ่นใหม่ไม่มีสิทธิ์ได้เกษียณ คือ Passive income แทบจะเป็นไปไม่ได้ คือ % ที่ได้จากตลาดหุ้นน้อยมาก
สินทรัพย์ราคาขึ้นขาเดียว สินทรัพย์ไม่สามารถเปลี่ยนมือ ธุรกิจไม่เปลี่ยนมือจากเจ้าสัวสมัยเก่า อย่างเช่น เกาหลี ฮ่องกง ญี่ปุ่น คนรุ่งใหม่ไม่สามารถซื้อได้เลย
ไม่ล้ม ไม่โต ไม่ตาย ไม่ล้ม การบิดเบือนกลไกลทางการตลาด ป่านนี้ 30 ปี ญี่ปุ่นยังไม่สมารถกลับไปรุ่งเรืองได้อีกเหมือนเดิม
อสังหากระตุ้นทำให้เกิด Bubble ได้ง่าย
ออสเตรเลีย เกิดการ bubble เพราะมีนโยบายคืนเงินเมื่อซื้อบ้าน นอกจากนี้ยังให้วีซ่าชาวต่างชาติ ทำให้คนจีนไปซื้อแล้วราคาก็เกิด Bubble ไปใหญ่โต
การลดดอกเบี้ยกระตุ้น Bubble
2008 หน้าบ้านมามัดรวมกัน สินทรัพย์แปลงเป็นทุนโดยทำ Laverage คือทรัพย์สิน 10% กู้ได้ 90 % แต่เงินในตลาดทุนมีเยอะจึงไปหาบ้านมาเพิ่มอีก คนก็อยากได้บ้านเพราะเชื่อว่าราคาจะไป ทำให้กิด Subprime คือ กู้บ้านโดยไม่ต้องซักประวัติการเงิน ตลาดอสังหาบูมมาก คนต่างคิดว่าถ้าจ่ายไม่ไหวก็เอาไปขาย แต่พอเกิดผิดนัดชำระหรือจ่ายไม่ได้ก็ขาย ขายหลายๆ คนเข้าไม่มีคนซื้อ
คนทำอสังหาก็ทำเรื่อย คนก็เริ่มทิ้ง คนก็เริ่มเจ๊งที่อสังหา ต่อไปที่สถาบันการเงิน รวมทั้งประกันที่ทำกองทุน
บิดเบือนกลไกตลาดได้ เช่น ตลาดหุ้นในตอนนี้ที่บริษัทขาดทุน แต่หุ้นขึ้น
ในทางกลุ่มที่ประเทศเกิดใหม่ ค่าเงินอ่อนแอ Dift กับ dollar คนว่างงานเยอะ เเต่ตลาดหุ้นขึ้น เเต่หุ้นไปต่อ เนื่องจากรัฐบาลช่วยเหลือ เนื่องจากผลกระทบที่ตามมาจริงๆ ยังไม่ตามมา
เกิดความเหลื่อมล้ำคนจน คนรวย
ตลาดหุ้นขึ้นเนื่องจาก บริษัททำอะไรไม่ได้ ก็ต้องเอาเงินเข้าตลาดหุ้น High Yiel Bond(หนี้ที่สภาพไม่ค่อยดี) ตราสารหนี้ เนื่องด้วยรัฐอุ้ม
Loss Decade 1990 bubble in Japan ( Miracle Japan) ที่อสังหาริมทรัพย์ ทำให้เศรษฐกิจไปไม่ได้ แต่ญี่ปุ่นไเลือกทำ QE เพื่ออุ้มบริษัท ทำให้ตลาดแทนที่จะล้มกลับไม่ล้ม คนที่ลงทุนผิดทางจะเจ๊งได้ คือ คาดการอีกทาง
เลี้ยงฟองสบู่ไปเรื่อยๆ เด็กรุ่นใหม่ไม่สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ ไม่ได้เกิดการ reset
ในอีกมุมนึงคือการกระจายสินทรัพย์ใหม่ คนรุ่นใหม่ไม่มีสิทธิ์ได้เกษียณ คือ Passive income แทบจะเป็นไปไม่ได้ คือ % ที่ได้จากตลาดหุ้นน้อยมาก
สินทรัพย์ราคาขึ้นขาเดียว สินทรัพย์ไม่สามารถเปลี่ยนมือ ธุรกิจไม่เปลี่ยนมือจากเจ้าสัวสมัยเก่า อย่างเช่น เกาหลี ฮ่องกง ญี่ปุ่น คนรุ่งใหม่ไม่สามารถซื้อได้เลย
ไม่ล้ม ไม่โต ไม่ตาย ไม่ล้ม การบิดเบือนกลไกลทางการตลาด ป่านนี้ 30 ปี ญี่ปุ่นยังไม่สมารถกลับไปรุ่งเรืองได้อีกเหมือนเดิม
อสังหากระตุ้นทำให้เกิด Bubble ได้ง่าย
ออสเตรเลีย เกิดการ bubble เพราะมีนโยบายคืนเงินเมื่อซื้อบ้าน นอกจากนี้ยังให้วีซ่าชาวต่างชาติ ทำให้คนจีนไปซื้อแล้วราคาก็เกิด Bubble ไปใหญ่โต
การลดดอกเบี้ยกระตุ้น Bubble
2008 หน้าบ้านมามัดรวมกัน สินทรัพย์แปลงเป็นทุนโดยทำ Laverage คือทรัพย์สิน 10% กู้ได้ 90 % แต่เงินในตลาดทุนมีเยอะจึงไปหาบ้านมาเพิ่มอีก คนก็อยากได้บ้านเพราะเชื่อว่าราคาจะไป ทำให้กิด Subprime คือ กู้บ้านโดยไม่ต้องซักประวัติการเงิน ตลาดอสังหาบูมมาก คนต่างคิดว่าถ้าจ่ายไม่ไหวก็เอาไปขาย แต่พอเกิดผิดนัดชำระหรือจ่ายไม่ได้ก็ขาย ขายหลายๆ คนเข้าไม่มีคนซื้อ
คนทำอสังหาก็ทำเรื่อย คนก็เริ่มทิ้ง คนก็เริ่มเจ๊งที่อสังหา ต่อไปที่สถาบันการเงิน รวมทั้งประกันที่ทำกองทุน
บิดเบือนกลไกตลาดได้ เช่น ตลาดหุ้นในตอนนี้ที่บริษัทขาดทุน แต่หุ้นขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น